การจะเลือกซื้อหุ้นสักตัว บอกเลยว่า เลือกกันไม่หวัดไม่ไหวครับ เพราะมันมีเยอะมาก นอกจากราคาหุ้นแล้ว ยังมีเรื่องของธุรกิจ พื้นฐาน ภาระหนี้ แล้วก็อีกเยอะมากๆครับ ถ้าใครมีเวลาพอก็อาจจะสามารถนั่งเลือกได้ครับ

แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่ามันเยอะเกินไป ผมแนะนำว่าให้เลือกเฉพาะกลุ่มที่ตัวเองชอบหรือสนใจก่อนครับ โดยวันนี้มีแบ่งหมวดหมู่มาให้เรียบร้อยแล้วครับ

หุ้นอเมริกา

11 กลุ่มหุ้นอเมริกา

  1. เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)

Apple (AAPL)

  • ธุรกิจ: ผู้ผลิต iPhone, iPad, Mac และบริการดิจิทัล เช่น iCloud และ Apple Music
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $3.5 ล้านล้าน

Microsoft (MSFT)

  • ธุรกิจ: ซอฟต์แวร์ (Windows, Office), Cloud Computing (Azure), และเกม (Xbox)
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $2.8 ล้านล้าน

NVIDIA (NVDA)

  • ธุรกิจ: ผลิตชิปกราฟิก (GPU) สำหรับเกม, AI, และ Data Centers
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $1.2 ล้านล้าน
  1. พลังงาน (Energy)

ExxonMobil (XOM)

  • ธุรกิจ: น้ำมันดิบ, ก๊าซธรรมชาติ, และปิโตรเคมี
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $500 พันล้าน

Chevron (CVX)

  • ธุรกิจ: พลังงานแบบดั้งเดิมและพลังงานหมุนเวียน
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $350 พันล้าน
  1. การเงิน (Financials)

JPMorgan Chase (JPM)

  • ธุรกิจ: ธนาคารเพื่อการลงทุน, สินเชื่อ, บริการบริหารสินทรัพย์
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $550 พันล้าน

Goldman Sachs (GS)

  • ธุรกิจ: การลงทุน, การจัดการสินทรัพย์, และวาณิชธนกิจ
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $125 พันล้าน
  1. อุตสาหกรรม (Industrials)

Boeing (BA)

  • ธุรกิจ: การผลิตเครื่องบินพาณิชย์และเครื่องบินทางทหาร
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $140 พันล้าน

Caterpillar (CAT)

  • ธุรกิจ: การผลิตเครื่องจักรสำหรับการก่อสร้างและเหมืองแร่
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $150 พันล้าน
  1. วัสดุ (Materials)

Dow Inc. (DOW)

  • ธุรกิจ: เคมีภัณฑ์และวัสดุสำหรับอุตสาหกรรม
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $40 พันล้าน

Linde (LIN)

  • ธุรกิจ: แก๊สอุตสาหกรรม เช่น ออกซิเจน ไฮโดรเจน
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $180 พันล้าน
  1. อสังหาริมทรัพย์ (Real Estate)

American Tower (AMT)

  • ธุรกิจ: บริหารจัดการหอคอยสัญญาณมือถือ
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $100 พันล้าน

Prologis (PLD)

  • ธุรกิจ: การบริหารพื้นที่โกดังและโลจิสติกส์
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $120 พันล้าน
  1. สินค้าอุปโภคบริโภคฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary)

Tesla (TSLA)

  • ธุรกิจ: ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและพลังงานสะอาด
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $1.1 ล้านล้าน

Amazon (AMZN)

  • ธุรกิจ: อีคอมเมิร์ซ, บริการคลาวด์ (AWS), และธุรกิจค้าปลีก
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $1.7 ล้านล้าน
  1. สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน (Consumer Staples)

Procter & Gamble (PG)

  • ธุรกิจ: ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและของใช้ในบ้าน เช่น ยาสีฟัน ผ้าอ้อม
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $350 พันล้าน

Coca-Cola (KO)

  • ธุรกิจ: ผลิตเครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลมและเครื่องดื่มพลังงาน
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $280 พันล้าน
  1. สุขภาพ (Health Care)

Johnson & Johnson (JNJ)

  • ธุรกิจ: ผลิตยา อุปกรณ์การแพทย์ และสินค้าเพื่อสุขภาพ
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $500 พันล้าน

Pfizer (PFE)

  • ธุรกิจ: ผลิตยาและวัคซีน เช่น วัคซีน COVID-19
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $200 พันล้าน
  1. บริการสื่อสาร (Communication Services)

Meta Platforms (META)

  • ธุรกิจ: โซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram) และเทคโนโลยี VR (Meta Quest)
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $750 พันล้าน

Netflix (NFLX)

  • ธุรกิจ: บริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์และซีรีส์
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $200 พันล้าน
  1. สาธารณูปโภค (Utilities)

NextEra Energy (NEE)

  • ธุรกิจ: พลังงานสะอาด เช่น ลมและแสงอาทิตย์
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $140 พันล้าน

Dominion Energy (D)

  • ธุรกิจ: ให้บริการไฟฟ้าและแก๊สธรรมชาติ
  • มูลค่าตลาด: ประมาณ $50 พันล้าน

หุ้นอเมริกาบางตัวถึงจะอยู่ในกลุ่มที่ต่างกัน แต่ก็มีการซื้อกิจการของบางบริษัทไปนะครับ เช่น อเมซอน ก็ซื้อ และทำกิจกรรมรักษาสุขภาพด้วยเช่นกันครับ

หุ้น

หมายเหตุ

  • มูลค่าตลาด (Market Cap) อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น

สรุป

หุ้นในตลาดสหรัฐแบ่งออกเป็น 11 กลุ่มหลักตาม GICS และยังมีหมวดหมู่เฉพาะทางที่เป็นกระแสนิยมอีกมากมาย การเลือกลงทุนขึ้นอยู่กับความสนใจและแนวโน้มในอุตสาหกรรมนั้นครับ ส่วนใครที่ต้องการซื้อหวยออนไลน์ไม่ได้สนหุ้น ก็สามารถเข้ามาเลือกซื้อหวยต่างประเทศกับเราได้นะครับที่ : Globallotto ครับ

MENU